We are experts in the production and distributor the best product grilled fish, Dried fish, smoked fish to world wide.Only you have requirement.
We can provide international export for all customer.
If you want to grilled fish please think of us.
" Kittisak Grilled Fish "
*** Channel to contact us ***
Name : Mr.Kittisak Hasuchol
Mobile Phone : +6689-5403014
E-Mail : kittisak.hasu@gmail.com
Line ID : 0895403014
WeChat : Kittisak46
*********************************************************************************
เราคือโรงงานผู้ผลิตและเชี่ยวชาญโดยตรง และจัดจำหน่าย
ปลาสวายย่าง,ปลาสวายรมควัน,ปลาย่าง
คุณภาพระดับส่งออก เกรด A++ อร่อย คุณภาพระดับพรีเมี่ยม ราคาโรงงาน รับสั่งผลิตเป็นจำนวนมาก
***ส่งให้ทั่วไทยและทั่วโลก***
*** ความสามารถในการผลิต 1,000 กิโลกรัม / วัน ***
*** ประสพการณ์ด้านการย่างปลาสวายกว่า 20 ปี ***
ที่ตั้งโรงงานและที่อยู่ กรุณาติดต่อ
กิตติศักดิ์ หาสุชล
บ้านเลขที่ 91 หมู่ 1 ต.โรงช้าง อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา 13150,ไทยแลนด์
Mobile Phone : +6689-5403014
E-Mail : kittisak.hasu@gmail.com
Line ID : 0895403014
WeChat : Kittisak46
Please see more detail
การชั่งน้ำหนักปลาย่างด้วยกิโลดิจิตอล เพื่อความแม่นยำ
ก่อนการปรับปรุง (Before)
เหตุผลที่ต้องเลือกใช้ เครื่องชั่งน้ำหนัก แบบดิจิตอล
(DIGITAL
SCALE)
ในฐานะที่เราเป็นผู้จำหน่ายหรือเป็นคนขาย(พ่อค้า
แม่ค้า) หากกิจการของเราต้องเกี่ยวข้องกับน้ำหนักละก็ มันจะดีกว่าเดิมแน่ถ้าเราลองหันมาใช้เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล
หากจะถามว่าทำไมวันนี้เราต้องให้ความสำคัญกับเครื่องชั่งแบบนี้ด้วย? ทั้งๆที่กิโลแบบเดิมก็ดีอยู่แล้ว ที่สำคัญดิจิตอลก็ราคาแพงกว่ากิโลสปริงหลายเท่าตัว...!!!!
อยากให้ลองพิจารณาว่าความจริงสิ่งสำคัญของการค้าก็คือกำไร
และเครื่องชั่งกิโลแบบดิจิตอลนี่แหละเป็นตัวช่วยสำคัญ ที่จะช่วยให้เราได้กำไรอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
ขออธิบายอย่างนี้ค่ะ "สมมุติว่าเราเป็นคนขายเนื้อไก่ชำแหละ
ขายในราคากิโลกรัมละ 100 บาท ก็ตกอยู่ขีดละ 10 บาท ถ้าลูกค้าสั่งซื้อเนื้อไก่ 1 กิโลกรัม
พอเราก็เอาเนื้อไก่ขึ้นชั่ง ปรากฎว่าอ่านน้ำหนักของเนื้อไก่จากเครื่องชั่งกิโลสปริงได้
1กิโลกรัมกับอีกครึ่งขีด หรือ50กรัม (1กิโล=10ขีดและ1ขีด=100กรัม) แน่นอนว่าเข็มของเครื่องชั่งสปริงจะชี้ว่าเกินมาครึ่งขีด
แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเกินมากี่กรัม ก็คงต้องประมาณเอา และในชีวิตจริงเราผู้ขายคงไม่มีเวลามานั่งคิดได้นานๆ
ก็เลยจำเป็นต้องปัดลงมา(ต้องเอาใจลูกค้า เขาจะได้กลับมาซื้อกับเราใหม่)แล้วบอกกับลูกค้าไปว่าหนัก
1กิโลกรัม แล้วรับเงินมา100 บาทถ้วน"
ด้วยเหตุนี้แหละ มันทำให้เราขาดทุนประมาณ 5 บาท(จากขีดละ10บาท)
และถ้าวันนั้นเราขายเนื้อได้10กิโล
เท่ากับว่าเราขาดทุนอย่างน้อยๆเท่ากับ
10x5 = 50บาทต่อวัน
ถ้าคิดเป็นเดือนเราขาดทุน
1500 บาท
แล้วถ้าคิดเป็นปีล่ะเราจะขาดทุนถึง18,000 บาท เป็นอย่างน้อย
หากว่าถ้าเราลองคิดทบทวนดีดี ประเด็นที่เราบอกกันว่าเครื่องชั่งดิจิตอลราคาแพง
มันกลับมองดูน้อยกว่าเงินที่เราทำหายไปซะอีก
การเลือกซื้อเครื่องชั่งแบบกิโลดิจิตอล
ต้องคำนึงถึงการใช้งานจริงว่าต้องการให้เครื่องชั่งทำอะไรได้บ้าง
เช่น
- ต้องการชั่งน้ำหนักอย่างเดียว ชั่งในที่แห้งไม่ได้ชั่งของเปียก
ใช้แค่ชั่งและกดหักภาชนะเท่านั้นก็ควรเลือกKILO-A15
- ต้องการชั่งพวกแป้ง,น้ำตาล
ผงสารส่วนผสมต่างๆ ที่ใช้ภายในไม่ได้ชั่งขายให้ใคร ก็ควรเลือกKINLEE
- ต้องการชั่งของในตลาด ชั่งเนื้อหมู,ชั่งไก่,ชั่งอาหารทะเล
เพื่อขายในแต่ละวัน แน่นอนว่าต้องเป็นเครื่องชั่งที่ผ่านการตรวจรับรองจากกองชั่งตวงวัดเสียก่อน
โดยชั่ง และคิดเงินได้ ก็ควรเลือก KILO-30,KILO-30D,KILO-ECO30
- ต้องการชั่งของเพื่อขายในตลาด ในซุปเปอร์มาเก็ต
ในห้าง และอยากจะปริ้นท์ราคา ปริ้นท์เงินทอน มีเบอร์โทรติดต่อด้วยก็ดี ควรเลือกKILO-30P
ซึ่งเครื่องชั่งตั้งขนาดเล็กแบบตั้งโต๊ะมีหลากหลายขนาด
หลายราคา ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งาน ซึ่งสเป็คย่อมส่งผลกับราคาที่มีทั้งถูกทั้งแพงแตกต่างกันไป
การเลือกซื้อเครื่อง
ลูกค้าควรศึกษาข้อมูลว่าสินค้านำเข้าหรือผลิตในประเทศ
ถ้าสินค้าผลิตในประเทศ
จะมีเพียงไม่กี่แบรนด์เท่านั้น ส่วนมากจะเป็นสินค้านำเข้ามากกว่า
มีทั้งจากยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี
ไต้หวันและจีน ซึ่งในส่วนของนำเข้าจากจีนเองก็มีหลายเกรด
การใช้งานควรจะเหมาะสมกับการนำไปใช้จริง ลูกค้าควรเลือกให้ได้ตามที่จะใช้
ไม่ควรรีบซื้อเพราะราคาถูกใจแต่ใช้งานแบบอื่นๆไม่ได้นอกจากชั่งอย่างเดียว เช่น การหักน้ำหนัก
ชั่งนับจำนวน...
3.องค์ประกอบและโครงสร้าง:
ควรคำนึงถึงสภาวะแวดล้อมที่จะใช้เครื่องชั่งและลักษณะการชั่งทั้งนี้เพื่ออายุการใช้งานที่นานขึ้นและ
ความแม่นยำ เช็คส่วนประกอบเช่น แจ็คอะแด็ปเตอร์,แบตเตอรี่(เปลี่ยนง่าย,หาง่าย),สแตนเลส...
4.บริการ:
เป็นสิ่งสำคัญเพราะเครื่องชั่งไม่ใช่เครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปที่ซื้อ-ใช้-พัง-ซื้อใหม่
เราจำเป็นต้อง
มีการบำรุงรักษาทั้งนี้เพราะมันเป็นเครื่องมือที่มีผลต่อกำไร-ขาดทุน
ผู้ขายต้องมีความรู้ ต้องสามารถ
ให้คำปรึกษาเราได้เพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้น มีบริการซ่อม
สอบเทียบ อะไหล่รวดเร็ว เป็นต้น
ควรมองหามาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับเครื่องชั่ง เช่นมาตรฐานความเที่ยงตรง
การตรวจรับรองจากกระทรวงพาณิชย์ หรือได้รับการสอบเทียบตามมาตรฐานห้องปฏิบัติการสอบเทียบ17025
เป็นต้น
6.ผู้จำหน่ายมีบริการแบบครบวงจร
คงไม่ดีแน่ถ้าหากเราจำเป็นต้องใช้เครื่องชั่งแต่พอโทรเข้าร้านที่ซื้อปรากฎว่าให้นำเครื่องมาตรวจเช็ดอย่างเดียว
ไม่มีการแนะนำการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเลย ทั้งๆที่บางครั้งอาการเสียอาจจะสามารถแก้ไขได้โดยตัวผู้ใช้งานเองก็ได้
เพราะความเสียหายของเครื่องชั่งไม่เท่ากับความเสียโอกาสในทางธุรกิจ